ผีพรายทำลายชีวิตผม ตอนที่ 3

เก๋เป็นเด็กค่อนข้างดื้อมาก สอนเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยฟัง ไม่ใช่ซึมเศร้าไม่พูดกับใคร แต่จะเถียงฉอดๆเลยหล่ะไปโรงเรียน ครูประจำชั้นก็มักจะมาฟ้องว่าเก๋ชอบไปเล่นกับคนอื่นแรง จนแม่นักเรียนคนอื่นต้องมา lynbet ฟ้องพอกลับมาบ้านก็มาทะเลาะกับพี่ชายมันอีก แล้วบวกกับช่วงนั้นเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่น้ำมันก็ขายยากขึ้น ผมเครียดไปหมดทุกอย่าง จนวันนึงผมนั่งตัดบัญชีอยู่ในห้องทำงานตอนดึกๆ ประมาณเที่ยงคืนน่าจะได้

เห็นเก๋มันเดินออกมาจากห้องนอนแล้วก็เดินไปที่ห้องน้ำ (ห้องทำงานผนังเป็นกระจกบานใหญ่) ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรสักพักเก๋มันแอบย่องออกไปนอกบ้านแต่ผมทำเป็นมองไม่เห็น ก้มหน้าทำงานต่อไป แล้วก็ได้แต่คิดในใจว่าเด็ก 5 ขวบมันทำเรื่องแบบนี้ได้แล้วหรอ lynbet  เลยแอบย่องตามออกไป เห็นเก๋มันไปนั่งยองๆอยู่ที่ท่าเรือริมน้ำหน้าบ้าน

ผมแอบดูอยู่ห่างๆก็ดูไม่ออกว่ามันทำอะไรเลยเดินเข้าไปดู เห็นเหมือนหัวคนดำๆโผล่ขึ้นมาจากน้ำแค่ครึ่งเดียว แล้วก็พลุบลงไปในน้ำและนั้นคือสิ่งที่เก๋มันนั่งดูอยู่ ผมเสียวสั้นหลังวาบเลยตอนนั้น คือเย็นไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ผมก็ดึงแขนเก๋ให้กลับเข้าบ้านให้ไว

เก๋มันก็โวยวายไม่ยอมกลับเข้าบ้าน บอก “ไม่ไปๆๆ” คือตอนนั้นผมด่ามันค่อนข้างแรงด้วยขึ้น  ขึ้น กู เลยเพราะรู้สึกโมโหจริงๆแล้วก็บังคับให้มันไปอยู่ในห้องล็อคบ้านไว้อย่างดี ผมกลับเข้าห้องนอนกะจะไปปรึกษาเมีย ตอนนั้นแค่มองหน้ากันก็เหมือนจะรู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว เมียผมร้องไห้ต่อมน้ำแตกเลย กลายเป็นต้องมานั่งปลอบเมีย สรุปคืนนั้นนอนไม่หลับทั้งคู่

พอรุ่งเช้าส่งเด็กไปโรงเรียนเสร็จ ผมรีบบึ่งไปหาพ่อปู่ฤาษีเลย เขาก็แนะนำผมว่าปัญหามันอยู่ที่ตัวลูกนั้นแหละพ่อปู่เขาก็รู้ว่าเก๋มีนิสัยก้าวร้าว หัวรุนแรง แต่ไม่ใช่ผีเข้า พ่อปู่ก็เตือนว่าอย่ามัวแต่ทำงาน ให้ดูลูกบ้างวันๆทำอะไร ประคบประหงมมันหน่อยผมเลยกลับทำตามที่พ่อปู่บอก คอยพยายามตามดูตลอด

จนวันนึงช่วงเวลาประมาณตี 2 ผมลุกจากเตียงมาเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงเก๋มันคุยอะไร งึมงัมอยู่ในห้อง (ลูกชายนอนอยู่อีกห้อง) ผมเลยเอาหูไปแนบฟังดูก็ฟังไม่รู้เรื่องไม่รู้พูดอะไรอยู่คนเดียวผมเลยไขห้องแล้วเปิดเข้าไปเลยครับ เห็นเก๋มันยืนส่องหน้าต่างอยู่ ผมโมโหใส่เลยตอนนั้น เพราะอยากรู้ว่ามันทำอะไรอยู่

ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตอบ เลยเอาไม้เรียวฟาด ในใจสงสารลูกจนผมร้องไห้แต่ก็ไม่รู้จะทำไง จนมันยอมบอกว่ามันเห็นเขามานานแล้วเขาเป็นเพื่อนมัน เขาช่วยมัน ผมก็ถามว่าใครพร้อมฟาดมันจนเลือดออก (แต่ในใจผมรู้เลยว่าคงจะเป็นผีพรายอีกแล้ว)คืนนั้นผมเข้าใจคำว่าหัวอกพ่อเวลาที่ลูกเจ็บมันจะเจ็บขนาดไหน คือคิดว่าจะต้องทำยังไงกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น เพราะถึงผีจะเข้ามาไม่ได้

ไม่ได้สิงใคร แต่ตอนนั้นเก๋มันคงเด็กเกินไปที่จะแยกแยะอะไรเป็นอะไร หลังจากนี้ไม่นาน ผมกับเมียก็พยายามดูแลเก๋กันอย่างใกล้ชิดไม่ห่วงแต่งานเหมือนเมื่อก่อน แต่เคราะซ้ำกำซัด วันนึงที่ท่าเรือหน้าบ้าน ผมกำลังทำงานอยู่ เรือประมงที่มาซื้อน้ำมันกำลังเข้ามาจอดก็โยนเชือกให้ไปคล้องกับหลักไว้ เพื่อจอดเรือ แล้วพอดีเก๋กับกรมันก็เล่นกันอยู่แถวๆนั้นพอดี เชือกของเรือนั้นยาวๆมาก ลูกน้องเรือก็จะดึงเชือก

เพื่อให้เรือนั้นแนบชิดกับท่า แต่เชือกดันไปเกี่ยวกับขาของเก๋ ลากเก๋ตกลงไปในน้ำ ตอนนั้นผมตกใจมาก รีบโดดลงไปช่วยลูกก่อนเลยแล้วน้ำก็กำลังสูงอยู่ด้วย ลูกน้องเรือที่เป็นพม่า 2-3 คนก็โดดลงมาช่วย เพราะผมพยายามเท่าไหร่ก็หาลูกไม่เจอ ผ่านไปประมาน 3 นาที

ความรู้สึกผมมันเหมือน 3 ชั่วโมง ช่วยกันหาอยู่ จนประมาน 5 นาทีตอนนั้นผมคิดว่าลูกผมไม่รอดแน่ๆ น้ำตามันไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้จนสุดท้ายลูกน้องพม่าคนนึงที่ดำลงไปนานกว่าคนอื่นก็เจอลูกผม มันบอกว่าไม่รู้ติดอะไร ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ยอมหลุด

ผมสรุปไปในใจเรียบร้อยเลยว่าผีพรายอีกแล้วใช่ไหม พอพาเก๋ขึ้นมาได้ก็พยายามช่วยให้ฟื้นทำทุกอย่างแล้วยังไงก็ยังไม่ยอมฟื้นแต่ก็ยังหายใจอยู่ เลยรีบพาไปโรงพยาบาล พอหมอออกมาบอกว่า ลูกผมสมองขาดออกซิเจนนานเกินไป

เด็กอาจจะกลายสภาพเป็นเจ้าหญิงนิทรา…

กลับสู่หน้าหลัก

Leave a Comment

Your email address will not be published.